วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

iPad : สุดยอด tablet จาก Apple

ipad

ipad

ข่าวมาแรงในวันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น iPad สุดยอดนวัตกรรมทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี และการใช้งานในราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
ที่ใครหลายๆคนได้ยินกันในชื่อ iSlate บ้าง iTablet จากเวบไซต์ข่าวสารดังจากทั่วโลก
ซึ่งในวันนี้ iStudio.in.th ก็ได้นำเอารายละเอียดทางเทคนิคคร่าวมายั่วกระตุกต่อมน้ำลายมาให้ดูกัน






คุณสมบัติเด่นของ iPad


- หน้าจอ Touchscreen เต็มรูปแบบ ขนาดความกว้างหน้าจอ 9.7 inch
ipad

- จอเป็นแบบ LED-backlit glossy widescreen และเป็นหน้าจอแบบ IPS ซึ่งจากคุณสมบัตินี้ทำให้จอมีความคมชัดสูงและมุมมองของจอนั้นแทบจะไม่ผิดเพี้ยน

ipad ipad


- มีสารเคลือบหน้าจอเพื่อลดรอยนิ้วมือ

- น้ำหนักเบาอย่างไม่น่าเชื่อที่ 680 กรัม ในรุ่น Wi-Fi และ 730 กรัมในรุ่น Wi-Fi + 3G

- รองรับการแสดงผลในหลายภาษา

ipad

- ภายในติดตั้ง Wi-Fi 802-11n (รองรับ 802.11 a/b/g ด้วย) และ Bluetooth 2.1 +EDR เป็นมาตรฐาน

- สำหรับในรุ่นที่เป็น 3G สามารถใช้งานผ่านระบบเครือข่ายมือถือในประเทศนั้นๆ ในช่วงแรกจะมีเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน และสามารถใช้ในส่วนของการรับส่งข้อมูลเท่านั้น

- เข็มทิศดิจิตอลในตัว

- ระบบติดตามตำแหน่งทั่วโลก (A-GPS)

- ความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 16, 32 และ 64 GB เป็นหน่วยความจำตายตัว ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมได้

- หน่วยประมวลผลกลางที่พัฒนาโดย Apple รุ่น A4 ทำงานที่ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 1 GHz ซึ่งเป็น CPU ประหยัดไฟ ความร้อนน้อย แต่ให้ประสิทธิภาพสูง

ipad


- ติดตั้ง Accelerometer และ Ambient Light Sensor ในตัว

- รองรับไฟล์เสียงในรูปแบบของ AAC, WAV, mp3, AIFF และ Apple Lossless

- สามารถนำสัญญาณภาพต่อขึ้นจอโทรทัศน์ได้ โดยผ่านสาย Apple Composite Cable และรองรับการต่อสัญญาณภาพแบบ VGA โดยผ่าน iPad Dock ความละเอียดหน้าจอ 1024x768 pixel

- การแสดงผลที่ความละเอียด 1024x784 ที่ความความชัด 720p ในอัตราเร็วภาพ 30 เฟรมต่อวินาที

- รองรับไฟล์ภาพมาตรฐาน jpeg, gif, tiff

- รองรับไฟล์เอกสารในรูปแบบต่างๆ ในกลุ่มโปรแกรม iWork, Microsoft Office, Adobe PDF

- มีคีย์บอร์ดจำลอง (แป้นพิมพ์จำลอง) และความสามารถในการแสดงผลในภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, เยอรมัน,อิตาเลี่ยน, จีน, ดัตซ์และรัสเซีย และยังไม่รองรับแป้นพิมพ์และความสามารถในการอ่านภาษาไทยได้ในขณะนี้

ipad

- รองรับการอ่านตัวหนังสือจากหน้าจอ ในกรณีที่ผู้ใช้มีความพิการทางด้านการมองเห็น

- แบตเตอรี่ติดตั้งในตัวขนาด 25 วัตต์ชั่วโมง แบบลิเธียม-โพลิเมอร์

- สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ในขณะเล่นอินเทอร์เนตผ่านระบบ Wi-Fi, ดูหนัง, และฟังเพลง
ipad

- วัสดุที่ใช้ประกอบตัว iPad สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้งผลิตภัณฑ์ ซึ่งปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

- ราคาเริ่มต้นที่ 499, 599, 699 เหรียญสหรัฐ หรือ 17,500 ในรุ่น 16 GB 20,900 บาท ในรุ่น 32 GB และ 24,600 บาทในรุ่น 64 GB (ราคาโดยประมาณและเป็นราคาในรุ่น Wi-Fi)

- วางจำหน่ายทั่วโลกประมาณเดือนมีนาคมในรุ่น Wi-Fi และ ในเดือนเมษายนในรุ่น Wi-Fi + 3G

จุดเด่นในเรื่องของ Software บน iPad


- Safari สามารถเพลิดเพลินกับเวบไซต์ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม
ipad

- Mail ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
ipad


- Photo เอาคุณสมบัติหลักจาก iPhoto ’09 มาไว้ใน iPad ซึ่งรองรับ Events, Faces และ Places
ipad

- Movie เป็นครั้งแรกหน้าจอยักษ์ 9.7 นิ้ว และคุณภาพของวีดีโอระดับ High-Definition
ipad

- YouTube สามารถค้นคลิปวีดีโอนับล้านของ YouTube ได้สะดวกมากขึ้น

ipad

- iPod คุณสามารถฟังเพลงจาก iPad ได้ง่ายมากกว่าเดิม
ipad

- iTunes แน่นอนเราสามารถซื้อเพลง, รายการทีวี, และหนังผ่าน iPad ของเราได้ทุกที่
ipad

- App Store กว่า 140,000 แอพฯของ App Store เราสามารถดาวน์โหลดแอพฯ ได้โดยตรง นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกไม่รู้จบ
ipad

- iBooks ไม่ใช่ NoteBook ของเราแต่เป็นร้านหนังสือออนไลน์ที่มีหนังสือให้คุณเลือกซื้อพร้อมกับคุณภาพของหนังสือที่คมชัดอีกด้วยipad

- Maps ครั้งแรกกับแผนที่จาก Google Maps ในรูปแบบ High Resolution
ipad

- Notes ให้คุณจดบันทึกรายการสำคัญที่เปรียบเสมือนสมุดบันทึกอัจฉริยะของเรา
ipad


- Calendar ให้คุณไม่พลาดนัดหมายสำหรับ เราได้พัฒนา Calendar บน iPad ให้น่าใช้มากกว่าเดิม ให้คุณจัดการชีวิตของคุณได้ง่ายขึ้น
ipad

- Contacts รายชื่อนับร้อย ลูกค้านับพัน รายชื่อใน Contacts ใช้ง่ายและฉลาดขึ้นกว่าเดิม
ipad


- Home Screen แบบสามมิติที่ออกแบบใหม่

- Spotlight search หาทุกสิ่งใน iPad ของคุณด้วย Spotlight ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์, เพลง หรือเอกสารที่คุณมีใน iPad ได้อย่างง่ายดาย

อุปกรณ์เสริมมาตรฐานของ iPad


- iPad Keyboard Dock ซึ่งคุณสามารถใช้งาน iPad บนโต๊ะของคุณเสมือนเป็นโต๊ะทำงานเคลื่อนที่ได้ ซึ่งมาพร้อมกับ Keyboard มาตรฐาน
ipad


- iPad case ซองใส่ iPad ไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันอย่างเดียว ยังสามารถใช้งานได้อย่างดีอีกด้วย
ipad

- iPad Dock แท่นวางที่ออกแบบเพื่อสำหรับการชาร์จ iPad โดยเฉพาะ
ipad



- iPad Camera Connection Kit อุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อนำรูปภาพจากกล้องดิจิตอลของคุณโอนมายัง iPad ของคุณได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีสองแบบให้เลือก ระหว่าง USB และ SD Card

ipad

- iPad USB Power Adapter อุปกรณ์ชาร์จไฟมาตรฐาน มาพร้อมกับสายไฟมาตรฐานยาว 6 ฟุต
ipad

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.apple.com และ iStudio In Thailand

Tabletkiosk Sahara Slate PC i440D Unbox Preview

Stantum Slate PC with Multi-touch Hands On

HP Slate Teaser Video (HP's Tablet PC)

Apple iPad Official Trailer

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เทคโนโลยีของ Touch Screen กับ ชนิดของหน้าจอสัมผัส



เครื่องมือเครื่องใช้ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องเล่นแบบพกพาเพื่อความบันเทิง, เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ใช้วิธีการติดต่อกับผู้ใช้งาน (Interface) เป็นการสัมผัสแทนการใช้ปุ่มกด ซึ่งมักจะใช้วิธีการสัมผัสหน้าจอ (Touch-Screen) เป็นส่วนประกอบหลักๆ ได้แก่ส่วนของเซ็นเซอร์ที่ตรวจการสัมผัสของแผงควบคุม ที่ทำหน้าที่รับสัญญานจากเซ็นเซอร์ มาประมวลผลเป็นพิกัดสัมผัสสุดท้าย คือ ส่วนของชุดคำสั่ง (Software), ตัวขับเคลื่อน (Driver) ซึ่งเป็นตัวเชื่อมกับระบบปฏิบัติการ ซึ่งทำให้เราสามารถใช้มือหรือปากกา Stylus สั่งงานที่หน้าจอได้เลย

ระบบหน้าจอสัมผัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นมีมาช้านานแล้วตั้งแต่ปี 1960 ซึ่งระบบหน้าจอสัมผัสจริงๆแล้วนั้นแพร่หลายอยู่บนเครื่องอุปกรณ์พกพาในรูปแบบต่างๆที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เช่นพวกเครื่องเก็บเงินตามโต๊ะแคชเชียร์ หรืออุปกรณ์เช็คสต๊อคสินค้าต่างๆ เพราะด้วยความสะดวกที่มีมากกว่าจะต้องใช้ Keyboard หรือ Mouse ในการสั่งการ เพราะหน้าจอระบบสัมผัสส่วนมากจะสามารถใช้นิ้วแตะเพื่อป้อนคำสั่งได้อยู่แล้ว จนในที่สุดระบบหน้าจอสัมผัสมันเลยกลายเป็นเอกลักษณ์อันโดเด่นสำหรับอุปกรณ์พกพาในรูปแบบ PDA ตั้งแต่สมัยเริ่มแรกที่ PDA เกิดขึ้นบนโลก ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Newton ของ Apple หรือแม้แต่ Palm สุดยอด PDA ยอดนิยมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

ระบบหน้าจอสัมผัสมันเริ่มเกิดความสับสนและวุ่นวายมากขึ้นเมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี้เองครับ ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจเกี่ยวกับระบบหน้าจอสัมผัสของเครื่อง PDA Phone กันสักเท่าไร เพราะรู้กันว่า PDA Phone ในโลกแทบทุกเครื่องเป็นระบบหน้าจอสัมผัสกันหมด และก็จะมีแท่งปากกา ที่เรียกว่า Stylus เอาไว้จิ้มใช้สั่งงาน แต่ไอ้เรื่องวุ่นๆเกี่ยวกับหน้าจอมันเกิดขึ้นมาจาก iPhone ตัวเดียวจริงๆที่ปลุกกระแสหน้าจอแบบ Capacitive ให้เกิดขึ้นมา เพราะแรกๆเมื่อสัมผัส iPhone จะรู้สึกทันทีว่ามันแตะได้หนึบติดนิ้วดีมาก แต่พอเอา Stylus ของเครื่อง PDA phone ทั่วไปมาจิ้มกลับไม่สามารถสั่งงานได้ เลยเป็นคำถามคาใจว่าหน้าจอระบบทัชสกรีนซึ่งปกติเอา Stylus จิ้มได้นั้น ปัจจุบันมันมีกี่แบบกันแน่

ในความเป็นจริงแล้วหน้าจอทัชสกรีนนั้นมันมีหลากหลายรูปแบบมากครับ แต่ที่นิยมใช้ในเครื่อง PDA Phone ยุคนี้ก็จะมีอยู่สองแบบคือ แบบ Resistive กับ Capacitive และด้วยเรื่องรูปแบบของระบบสัมผัสหน้าจอนี้แหละมันเลยกลายเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเครื่องยุคปี 2009 เพราะเนื่องจากระบบ Touch interface มันเกิดได้รับความนิยมสูงสุดแบบไม่เคยมีมาก่อนมันเลยงานเข้าเลยหละทีนี้ ทำให้คนให้ความสำคัญการทำงานด้วยนิ้วเป็นหลัก แต่เครื่อง PDA Phone ในตลาดส่วนมากจะเป็นหน้าจอแบบ Resistive เลยทำให้การสัมผัสสั่งงานด้วยนิ้วมันทำงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไร คือพูดกันตรงๆเลยละกันว่า มันตอบสนองสู้ iPhone ไม่ได้ ก็เพราะว่าหน้าจอ iPhone มันเป็นหน้าจอระบบสัมผัสแบบ Capacitive นั่นเอง ซึ่งตอบสนองการสั่งงานด้วยนิ้วได้ดีกว่า แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถใช้ Stylus หรือวัสดุอื่นๆจิ้มได้

เครื่องนับแต่ปี 2009 นี้เป็นต้นไป คาดกันว่าเครื่องรุ่นไหนไฮโซหน่อยก็จะใช้หน้าจอแบบ Capacitive ส่วนเครื่องรุ่นธรรมดาก็อาจจะใช้ Resistive สำหรับในตลาดเวลานี้เครื่อง PDA Phone ที่เป็นหน้าจอแบบ Capacitive เท่าที่เห็นๆกันก็จะมี iPhone , HTC Magic , HTC Hero และ Palm Pre อ้อ! และที่กำลังตามมาติดๆก็คือ Nokia X6 ส่วนความแตกต่างของเรื่องหน้าจอเป็นตัวบ่งชี้ราคาและกลุ่มตลาดเพื่อแบ่งตำแหน่งสินค้า ซึ่งที่เห็นกันชัดๆล่าสุด อย่างเครื่อง PDA phone ในแบบ แอนดรอยด์ตัวล่าสุดของ HTC ที่ชื่อว่า Tattoo นั้น มันเป็นเครื่องราคาประหยัดเค้าเลยแหวกแนวไปใช้หน้าจอแบบ Resistive Touch Screen แทน ซึ่งโดยปกติแล้วน่าจะเป็นหน้าจอแบบ Capacitive แบบแอนดรอยด์ตัวอื่นๆ

จากนี้ไปผมขออธิบายเกี่ยวกับหน้าจอ Touch Screen ในแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งข้อแตกต่างของแต่ละแบบ ดังนี้ครับ

1. หน้าจอแบบ Resistive

เทคโนโลยี Resistive ถือว่าเป็นแบบที่ประหยัดและเหมาะกับการใช้งานประเภท
ต่างๆได้กว้างขวาง เช่ีน ร้านอาหาร ร้านค้าที่ใช้เครื่อง POS งานควบคุมทางด้านอุต
สาหกรรม รวมทั้งใช้ในอุปกรณ์พกพาอย่าง PDA, Mobile เป็นต้น Touch Screen
แบบ Resistive จะประกอบด้วย เลเยอร์ด้านบนที่ยืดหยุ่นและเลเยอร์ด้านล่างที่อยู่
บนพื้นแข็งคั่นระหว่าง 2 เลเยอร์ด้วยเม็ดฉนวนซึ่งทำหน้าที่แยกไม่ให้ด้านในของ 2
เลเยอร์สัมผัสกันเพราะด้านในของ 2 เลเยอร์นี้จะเคลือบด้วยสารตัวนำไฟฟ้าที่มีคุณ
สมบัติโปร่งแสงในเวลาจะมีการปล่อยกระแสที่เลเยอร์สารตัวนำ และเมื่อคุณกดที่
Touch Screen จะทำให้วงจร 2 เลเยอร์ต่อถึงกัน จากนั้นวงจรควบคุมก็จะคำนวณ
ค่ากระแสไฟฟ้า ซึ่งจะแตกต่างไปตามตำแหน่งที่สัมผัส เมื่อคำนาณค่ากระแสตาม
แนวตั้งและแนวนอนก็จะได้ตำแหน่งที่สัมผัสบนหน้าจอ

ข้อดีของ Resistive

- ราคาไม่แพง
- สามารถใช้อะไรสัมผัสก็ได้
- หาตำแหน่งที่สัมผัสได้ละเอียด
- กินไฟน้อย

2. หน้าจอแบบ Capacitive

เทคโนโลยี Capacitive มีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งความทนทาน ความ
โปร่งแสง มักเป็นที่นิยมใน Application ประเภท เกมส์ Entertrainment
ATM, Kiosk อุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม และ POS (Point of Sale) โครงสร้างของ Touch
Screen แบบ Capacitive นั้นประกอบด้วยแผ่นแก้วเคลือบผิวด้วยอ็็อก
ไซด์ของโลหะแบบโปร่งแสง เมื่อถึงเวลาการใช้งานก็จะมีการป้อนแรง
ดันไฟฟ้าที่มุมทั้งสี่ของ Touch Screen เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

ความเข้มสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งแผ่น ผู้ใช้จะต้องใช้นิ้วมือเปล่าๆ สัมผัสที่จอเพื่อดึงกระแสจากแต่ละมุมที่ให้แรงดันตกลง จากนั้นแผงวงจรควบคุมก็จะคำนวณเป็นตำแหน่งที่สัมผัสได้


ข้อดีของ Capacitive

- มีความคมชัด
- แสงจากหน้าจอสามารถผ่านออกมาได้ ภาพจึงชัด
- หาตำแหน่งที่สัมผัสได้ละเอียด สามารถสัมผัสด้วยนิ้ว

3. หน้าจอแบบ Acousttic Wave



ด้วยความโดดเด่นในเรื่องความคมชัดสูงความเม่นยำทำไห้มีการใช้งานเทคโนโล

ยี Acousttic wave ใน Application Kiosk Touh Screen แบบนี้จะมีตัวส่งสัญญาน

ซึ่งยึดติดไว้ที่ขอบกระจกเพื่อส่งสัญญานอุลตร้าโซนิกส์ไปทั้งสองระนาบ คลื่นเสียง

นี้จะสะท้อนผ่านไปทั้งพื้นผิวของกระจกมายังเซ็นเซอร์อีกด้านหนึ่ง เมื่อมีการสัมผัส

ด้วยนิ้วหรือสไตตัลที่มีปลายอ่อน จะมีการดูดซับพลังงานจากคลื่นเสียง ทำให้แผง

ควบคุมสามารถวัดตำแหน่งการสัมผัสได้จากการเปลี่ยนแปลงขนาดของคลื่นเสียง


ข้อดีของ Acousttic Wave

- ภาพจะมีความคมชัด

- มีความทนทานมาก

- มีความแม่นยำสูง

- มีความสามารถในการตรวจจับตามแนวลึก (แกน Z)ได้ด้วย

- แผ่นแก้วด้านหน้ามีความคงทน


4. หน้าจอแบบ Infared


Touch Screen แบบ Infared จะถูกใช้งานในจอแสดงผลขนากใหญ่ในสถาบันการเงินและทางการทหาร เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยการตรวจจับแสง ดังนั้น แทนที่จะมีแผ่นแก้วอยู่หน้าจอเหมือนกับเทคโนโลยีอื่น แต่จะทำเป็นกรอบแทน ภายในกรอบจะมีแผงของแหล่งกำเหนิดแสงที่เรียกว่า LED ที่ด้านหนึ่งพร้อมกับตัวตรวจจับแสงที่ด้านตรงข้ามกัน จึงเป็นเสมืิอนกริดของลำแสงทั่วจอ เมื่อมีวัตถุใดสัมผัสก็จะไปตัดลำแสงไม่ให้ผ่านไปถึงตัวตรวจจับแสงทำให้แผงควบคุมสามารถทราบตำแหน่งพิกัดสัมผัสได้



ข้อดีของ Infared

- แสงผ่านได้อย่างเต็มที่ 100 % เนื่องจากไม่มีอะไรมาบังหน้าจอ

- มีความแม่นยำสูง


ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก www.mrpalm.com และ www.hitop.co.th

ยินดีต้อนรับสู่บล็อกเล็ก ๆ ที่รวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับ Tablet ทั่วโลกครับ

สวัสดีเหล่าสาวกผู้รักการใช้งาน Tablet ทุกท่าน ขอต้อนรับสู่ ThaiTablet เว็บบล็อกที่จะรวบรวมองค์ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับ Tablet Computer จากแหล่งข่าวชั้นนำทั่วฟ้าเมืองไทยและทั่วโลก มาให้เหล่าสาวกได้สดับรับชมกันอย่างจุใจ

ในปัจจุบัน กระแสการของ Tablet Computer เริ่มมาแรง เร่งแซง Netbook ขึ้นทุกวี่-ทุกวัน กระผมจึงได้ถือโอกาสนี้เปิดบล็อคนี้ขึ้นมาซะเลย โดยตั้งใจจะนำข่าวสาร ข้อความ ข้อคิดดี ๆ รวมไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ Tablet ทั้งหมด จากเว็บไซต์ แหล่งข่าว ชั้นนำต่าง ๆ อีกทั้งหากมีข่าวเด็ด ๆ ผมก็จะไม่พลาด ต้องนำมาให้ทุก ๆ ท่านรับชมกันอย่างแน่นอน

ที่มาที่ไปของบล็อคนี้ก็คือ จากการที่ผมก็เป็นพนักงานขายประจำร้านคอมพิวเตอร์ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งก็เพิ่งเปิดตัว Tablet ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ และผมก็ได้มีโอกาสดูรายการถ่ายทอดสดด้วย ปรากฎว่ามีกระแสตอบรับหลังการเปิดตัว ในด้านต่าง ๆ มากมาย ผมก็เลยไม่รอช้าที่จะเปิดบล็อคของ Tablet ขึ้นมา เพื่อนำความรู้ต่าง ๆ ที่ผมได้รับ มาเผยแพร่เป็นความรู้แก่ทุกท่าน เพื่อประโยชน์ต่อตัวผม ตัวท่านเอง และประเทศชาติในอนาคตครับ

คอยติดตามนะครับ
Tablet Man